แรงงานตั้งครรภ์มีเฮ!! สปส. เดินหน้าแก้กฎหมาย สิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร
แรงงานตั้งครรภ์มีเฮ!! สปส. เดินหน้าแก้กฎหมาย สิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร “เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร”
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า เมื่อวันสตรีสากล 8 มีนาคม 2565ที่ผ่านมา เครือข่ายสตรีได้ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้างประเด็นวันลาคลอดบุตรที่ปัจจุบันให้ลาได้ 98 วัน แต่การจ่ายค่าจ้างครอบคลุมเพียง 90 วัน จึงเห็นได้ว่าจำนวนวันลา 8 วัน ที่เพิ่มขึ้นนั้น ลูกจ้างยังไม่ได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่าจ้าง ซึ่งในเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยและสั่งการให้เร่งดำเนินการติดตามการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อให้นายจ้างและสำนักงานประกันสังคมร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้ครอบคลุมวันลาทั้งหมด 98 วัน ซึ่งขณะนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสนอปรับแก้ไขกฎหมายการจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรให้แก่ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน โดยเร็วต่อไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมาย สิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร “เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร” จากข้อเรียกร้องของเครือข่ายสตรีได้ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้างประเด็นวันลาคลอดบุตรที่ปัจจุบันให้ลาได้ 98 วัน แต่การจ่ายค่าจ้างครอบคลุมเพียง 90 วัน จึงเห็นได้ว่าจำนวนวันลา 8 วัน สำนักงานประกันสังคม เสนอแก้ไขกฎหมายในกรณีคลอดบุตร (เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร) ดังนี้
กฎหมายเดิม
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ให้ผู้ประกันตนหญิงลาคลอดได้ 90 วัน โดยรับค่าจ้างจากนายจ้าง 45 วัน ในอัตรา 100% ของค่าจ้าง และสำนักงานประกันสังคมจ่ายเพิ่มอีก 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 90 วัน เช่น ฐานค่าจ้าง 15,000 บาท จะได้รับ 22,500 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับค่าคลอดบุตร 15,000 บาท ผู้ประกันจะได้รับทั้งสิ้น 37,500 บาท
กฎหมายใหม่
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน ให้ผู้ประกันตนหญิงลาคลอดได้ 98 วัน โดยรับค่าจ้างจากนายจ้าง 45 วัน ในอัตรา 100% ของค่าจ้าง และสำนักงานประกันสังคมจ่ายเพิ่มอีก 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 98 วัน เช่น ฐานค่าจ้าง 15,000 บาท จะได้รับ 24,500 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับค่าคลอดบุตร 15,000 บาท ผู้ประกันตนจะได้รับทั้งสิ้น 39,500 บาท
“ขณะนี้ การดำเนินการของสำนักงานประกันสังคมอยู่ในขั้นตอนการเสนอร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม พร้อมร่วมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล และให้ความสำคัญในการมุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตแก่พี่น้องผู้ประกันตนทุกกลุ่มให้เข้าถึงหลักประกันสังคม เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ กองทุนประกันสังคม โดยเพิ่มค่าคลอดบุตรจากเดิม 13,000 บาท เพิ่มเป็น 15,000 บาท เงินสงเคราะห์บุตรจากเดิมเดือนละ 600 บาท เพิ่มเป็นเดือนละ 800 บาท ค่าฝากครรภ์ตามเกณฑ์คุณภาพ จากเดิม 1,000 บาท เพิ่มเป็น 1,500 บาท รวมทั้งการตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพเต้านม ตรวจมะเร็งปากมดลูกฟรีให้แก่ผู้ประกันตนและการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกรณีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อการคุ้มครองดูแลแรงงานสตรีให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคม” นายบุญสงค์ กล่าวในตอนท้าย
ข้อมูลบทความจาก https://www.prachachat.net https://web.facebook.com/ssofanpage