แนวโน้ม Blockchain Technology 2022

เพราะเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่อยู่รอบตัวเรา ซึ่ง Blockchain Technology ก็เป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ โดยปัจจุบันจะสังเกตว่า องค์กรที่มีการใช้ระบบ ERP (ERP, WPS, MES, CRM) สามารถนำ Blockchainมาใช้ เพื่อช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงิน การติดตามการซื้อและจัดส่งผลิตภัณฑ์ การดูแลลูกค้า ฯลฯ เพราะด้วย Blockchain Technology ตอบโจทย์งานในธุรกิจรูปแบบต่างๆได้ดีไม่ว่าจะเป็น
  1. งานในธุรกิจที่ต้องการความโปร่งใส เช่น การบริจาคเงินให้กับองค์กรหรือบุคคลต่างๆ ทำให้ทราบข้อมูลการบริจาคเงินตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และลดค่าใช้จ่าย
  2. งานติดตามสินค้าต่างๆ เช่น การติดตามเส้นทางขนส่งของอาหารสด ตั้งแต่วัตถุดิบออกจากฟาร์มไปสู่ลูกค้า กำหนดวันหมดอายุ การสืบสวนปัญหาต่างๆ
  3. งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น โตโยต้า ได้นำBlockchain มาพัฒนาการเก็บข้อมูลที่ได้จากผู้ผลิตรถยนต์และผู้ใช้งานรถยนต์กว่าพันล้านข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับปรุงความปลอดภัยของเทคโนโลยีไร้คนขับให้มีประสิทธิภาพ
  4. งานสำรองข้อมูลย้อนหลัง ให้มั่นใจว่าจะไม่ถูกทำลายหรือไม่ถูกเปลี่ยนแปลง สามารถใช้ Blockchain ในการบันทึกข้อมูลที่ต้องการสำรองเอาไว้ได้ หรือ บริการการจัดเก็บเอกสารสำหรับใช้ทำสัญญาโดยเฉพาะ
  5. งานที่มีลิขสิทธิ์ เช่น Muse Blockchain ได้สร้างแพลตฟอร์ม Streaming ชื่อว่า Peer Tracks ที่ผู้ฟังสามารถจ่ายเงินโดยตรงไปยังศิลปินได้ นอกจากจะช่วยเรื่องลิขสิทธิ์แล้ว ยังช่วยตัดคนกลางออกไป ทำให้ศิลปินได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น
  6. งานด้านการแพทย์ ใช้ Blockchain เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข้ามหน่วยงานและแพลตฟอร์มที่ต่างกันได้ เพิ่มความถูกต้องแม่นยำในการนำข้อมูลมาวินิจฉัยและรักษาโรค แทนการเช็คแฟ้มประวัติคนไข้หรือโทรศัพท์ไปขอข้อมูลผู้ป่วย
จะเห็นได้ว่า Blockchain Technology เข้ามามีส่วนอย่างมากมายในโลกปัจจุบัน โดยในปี 2022 นี้คาดว่าแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม Blockchain จะมีมากขึ้นและถูกนำไปใช้มากขึ้นโดยเหตุผลและปัจจัยต่างๆ โดยจากบทความของ ซานี อับดุล-จับบาร์สมาชิกสภา Forbes พอสรุปได้ดังนี้
  1. รัฐบาลจะเปิดรับ Blockchain Technology

รัฐบาลหลายแห่งได้ทดลองใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ในกิจกรรมและบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนที่ดิน การรับรองเพื่อการศึกษา การดูแลสุขภาพ การจัดซื้อ ฯลฯ

ตัวอย่างเช่น

  • ในประเทศไทยเราเองก็มีความร่วมมือของ กรมสรรพากร ธนาคารต่างๆ และผู้ให้บริการบล็อคเชนอย่าง บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) เข้ามามีส่วนร่วมในการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานเพื่อทำธุรกรรมด้านภาษี และการเงิน
  • การนำบล็อคเชนเทคโนโลยีมาใช้ในการลงคะแนนเสียงในท้องถิ่นของ Australia หรือ
  • เอสโตเนียนำบล็อกเชนเทคโนโลยี มาใช้กับระบบภาษีและการจดทะเบียนธุรกิจ ตลอดจนบันทึกสุขภาพทางอิเล็กทรอนิกส์

ในขณะที่การนำบล็อคเชนไปใช้โดยภาครัฐเพิ่มขึ้น รัฐบาลหลายแห่งพยายามที่จะจัดการกับปัญหาเรื่องความไว้วางใจ เป็นผลให้ธนาคารโลก เสนอกรอบการออกแบบและการใช้งานสามชั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาระหว่างเทคโนโลยีและการใช้งานที่ตั้งใจไว้ แนวทางเดียวกันนี้สำหรับการนำบล็อคเชนไปใช้ในธุรกิจได้เช่นกัน

  1. Blockchain ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอาจช่วยรักษาโลกได้

บล็อคเชนมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความต้องการพลังงานมหาศาลที่จำเป็นต่อการรักษาความปลอดภัย นี่คือเหตุผลที่ Elon Musk อ้างถึงการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของเขาเกี่ยวกับการชำระเงินรถยนต์ด้วย Bitcoin เราได้เห็นความพยายามอย่างมากที่จะทำให้เทคโนโลยีบล็อคเชนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การพยายามชดเชยค่าการศูนย์เสียพลังงาน หรือการชดเชยค่าเสียหายจากสร้างมลภาวะทางคาร์บอน  หรือการหาแนวทางที่จะใช้พลังงานที่น้อยลงโดยใช้อัลกอริธึมเข้ามาช่วย

  1. หลายๆประเทศ เริ่มยอมรับ cryptocurrencies เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย

ประเทศกำลังพัฒนามีแนวโน้มที่จะยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกและต้นทุนการโอนเงินที่เพิ่มขึ้นจากสถาบันการเงินคนกลางที่อำนวยความสะดวกในการโอนเงินกลับบ้านโดยแรงงานต่างชาติ

อีกด้านที่เราจะได้เห็นการพัฒนาที่สำคัญในปี 2022 คือ สกุลเงินดิจิทัลที่ถูกควบคุมโดยธนาคารกลาง แทนที่จะใช้เหรียญกระจายอำนาจที่ได้รับความนิยม โครงการริเริ่มเหล่านี้จำนวนมากมีลักษณะเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่จะทำงานควบคู่ไปกับเงิน fiat

  1. ตลาด NFT จะเติบโตต่อไป แบบมีข้อแม้

ตลาด NFT คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีสิ่งต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จากทางกายภาพไปสู่ดิจิทัล ตลาด NFT ให้ผู้ใช้สามารถยืนยันสิทธิ์ในทรัพย์สินของตนเหนือสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้ คุณซานี อับดุล-จับบาร์ ยังเชื่ออีกว่า โมเดล NFT 2.0 จะไม่เกี่ยวกับศิลปะ แต่จะเกี่ยวกับยูทิลิตี้ ,เกม ,การแบ่งปันทางสังคม และการเข้าถึงชุมชนที่พิเศษเฉพาะตัวมากกว่า แค่แนวคิดเกี่ยวกับ Metaverse เพียงอย่างเดียวจะก็สามารถสร้างกรณีการใช้งานใหม่มากมาย สำหรับแอปพลิเคชัน NFT ที่จะเกิดในอนาคตแล้ว

  1. Blockchain จะเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด

ปี 2022 จะเห็นความต้องการทักษะบล็อคเชนและคริปโตมากขึ้น ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Cryptocurrencies ความโดดเด่นที่เพิ่มขึ้นของ Blockchain ในภาคต่างๆ และศักยภาพในการเติบโตในอุตสาหกรรม Blockchain ล้วนมีส่วนทำให้ความต้องการทักษะ Blockchain และ Crypto สูงขึ้น ปัจจุบัน Blockchain อยู่ในจุดที่องค์กรขนาดใหญ่และรัฐบาล ให้ความสำคัญแล้ว ไม่ใช่แค่ชุมชนไฮเปอร์เทคนิคเล็กๆของผู้เชี่ยวชาญไอที การเริ่มเข้าใจถึงศักยภาพของ Blockchain ในแง่ การพัฒนาชีวิตของผู้คนและสร้างองค์กรที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงทำให้มีความต้องการของบุคลากรทางเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาทำงานเช่นกัน

“แม้เราอาจไม่รู้แน่ชัดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในปีนี้ หรือปีต่อๆไป แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถบอกได้ถึงอนาคตของ Blockchain คือ Blockchain จะเป็นเทคโนโลยีของชุมชนที่จะปฏิวัติวิธีการที่ทำสิ่งต่างๆ ในทศวรรษต่อๆ ไป ดังนั้นถึงเวลาที่คุณอาจจะต้องเริ่มคิดที่จะรวมสิ่งนี้เข้ากับโมเดลธุรกิจของคุณได้แล้ว หากตอนนี้คุณยังไม่ได้เริ่มทำ”

ที่มา Predictions For The Blockchain Industry In 2022 By Sani Abdul-JabbarForbes  Councils Member Forbes Business Council

https://www.forbes.com/

https://www.depa.or.th/

รูปภาพ  – https://www.pexels.com/