ยกระดับการยืนยันตัวตน และเชื่อมข้อมูลให้บริการภาษี ด้วยเทคโนโลยี Blockchain
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 กรมสรรพากร และ บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) ร่วมด้วย ธนาคารอีก 11ธนาคาร ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่อง การเข้าถึงระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อสนับสนุนข้อมูลสำหรับการให้บริการธุรกรรมภาษี โดยทำการเชื่อมต่อกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของ NDID เพื่อนำมาใช้ในการสนับสนุนข้อมูลการให้บริการธุรกรรมภาษีของกรมสรรพากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน สร้างการอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย สร้างความโปร่งใส และลดภาระของประชาชน รวมถึงภาคเอกชนในการติดต่อหรือใช้บริการจากกรมสรรพากร โดยมีการลงนามบบันทึกข้อตกลงแบบ Online ผ่านโปรแกรม Zoom ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ ทาง ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ได้สรุปวัตถุประสงค์ไว้ดังนี้
- อำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตน เพิ่มช่องทางยืนยันตัวตนผ่าน NDID ที่เป็น ID Platform
- การเชื่อมโยงข้อมูลการให้บรการภาษี เนื่องจาก NDID ใช้เทคโนโลยี Blockchain จึงทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลปลอดภัย รวมถึงทำให้ผู้เสียภาษี เชื่อถือได้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ขาดในการร้องขอ ให้รับหรือส่งข้อมูลที่ได้รับการยินยอมแล้วจริงๆ สร้างความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และต้นทุนต่ำ ตามยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับปรุงและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และแผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งนี้ยังมีธนาคารที่เข้าร่วม 11 ธนาคาร ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ซึ่งธนาคารทุกแห่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและให้ความร่วมมือกับกรมสรรพากรในการดำเนินงานในครั้งนี้เช่นกัน
“การเข้าถึงระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อสนับสนุนข้อมูลสำหรับการให้บริการธุรกรรมภาษี”
เป็นอีกก้าวสำคัญของกรมสรรพากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมมือกัน เพื่อยกระดับบริการธุรกรรมภาษีให้รวดเร็ว โปร่งใสและมีต้นทุนต่ำ
นอกจากนี้กรมสรรพากร สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ และ NDID จะนำโครงการนี้ เข้าสู่การทดสอบ Digital Service Sandbox ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ระบบอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลทั้งสองแห่ง และเพิ่มความมั่นใจให้แก่ทุกภาคส่วน
ก่อนจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวงกว้างต่อไป โดยเชื่อมั่นว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะร่วมกันส่งมอบบริการที่ดีให้กับภาคประชาชนและภาคธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้การพัฒนาและเชื่อมโยงระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลผ่าน NDID Platform ระหว่างกรมสรรพากร และภาคสถาบันการเงินในครั้งนี้ ยังสามารถสร้างความมั่นใจในการเข้าถึงการให้บริการด้านดิจิทัลและการนำข้อมูลด้านภาษีไปใช้ประโยชน์ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและภาคธุรกิจในการทำธุรกรรมด้านภาษีกับกรมสรรพากรได้มากขึ้นอีกด้วย