SUPER Productive ?
คำถามที่เราพบเจอกันเสมอ ว่าในแต่ละช่วงชีวิตเรา เราเจอกับอะไรบ้าง การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ การต้องวางแผนต่างๆในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต การต้องทำอะไรสักอย่างจนกว่าจะสำเร็จ การต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ
หลายคนเฝ้าฝันถึงการใช้ชีวิตให้มีความสุข มีเวลาพัฒนาตนเอง และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การโหมงานหนักเกินไปจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น วันนี้เราจะมาลองทำความรู้จักกับชีวิตให้ Productive จากแนวความคิดและคำแนะนำของ คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้เขียนหนังสือ Super Productive กันดู
ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของคำว่า Productive กันก่อน
Productive ถูกแปลแบบตรงตัวว่า “ประสิทธิผล” อาจอธิบายตามความเข้าใจของผู้เขียนบทความ น่าจะเป็น “การทำงานหรือการดำเนินชีวิตที่มีเป้าหมาย นำไปสู่ความสำเร็จที่ทำให้ชีวิตรุ่งเรืองขึ้น”
คนเรามักชอบตั้งเป้าหมาย ว่าเราจะทำอะไรให้สำเร็จในแต่ละปี หรือทำอะไรเพื่อให้ความฝันที่เรามีอยู่สำเร็จแบบเป็นขั้นเป็นตอนไว้ แต่หลายครั้งที่เราจะพบว่ามันอาจไม่เกิดขึ้นจริงหรือล้มเหลวระหว่างทาง เพราะในทุกการทำอะไรใหม่ๆ เรามักจะเจอแรง 2 แบบ คือ Friction หรือแรงเสียดทาน และ Momentum ตอนเริ่มมันจะยากเพราะแรงเสียดทานมันเยอะ แต่สำหรับคนที่มุ่มมั่นจริงจัง จะลงมือทำไปเรื่อยๆ ทำอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายโมเมนตัมจะเกิดขึ้น แล้วเราจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างแน่นอน เรื่องนี้เราสามารถนำไปใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตจริง
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราจะยกตัวอย่าง การทำ 30 day challenge for six pack ของคุณรวิศ ที่จะแสดงให้เราเห็นว่า ถ้าเราตั้งเป้าจริงจัง เราก็จะสามารถไปถึงเป้าหมายได้
โดยเทคนิคง่ายๆ เพื่อทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ จากคำว่า “SUPER”
S=Start with WHY
เริ่มต้นด้วยการตอบให้ได้ว่าทำไมเราถึงอยากได้สิ่งนี้ แนวคิดนี้มาจาก golden circle ของคุณ Simon Sinek นั่นเอง ถ้าเราตอบ why ได้ how, what ก็จะตามมาเอง
U=Unhook
จัดการกับสภาพแวดล้อมให้ได้ อยากลดความอ้วนก็ต้องไม่เอาของอ้วนๆ มาใส่ไว้ในตู้เย็น ช่วงเวลาที่เราควบคุมตัวเองได้ดีก็ไม่มีปัญหา แต่ช่วงเวลาที่เราเหนื่อยๆ เราจะต้านทานมันไม่ไหว ใครที่บอกว่าตัวเองไม่มีเวลา ก็ลองดูพฤติกรรมการใช้มือถือของตัวเองก็ได้ ถ้าเรางด social media หลายๆ อัน เราก็จะได้เวลากลับคืนมาเยอะมาก ทำได้ง่ายๆ ด้วยการลบแอพบางแอพออกจากมือถือไปซะ
P=Prioritize
การจัดการเรื่องด่วน ไม่ด่วน สำคัญ ไม่สำคัญ โดยเน้นทำเรื่องไม่ด่วนแต่สำคัญให้ได้ เพื่อมันจะได้ไม่กลายเป็นเรื่องสำคัญแต่ด่วนในที่สุด เพราะจะทำให้เราต้องดับเพลิงตลอดเวลา แทนที่จะมีเวลาวางแผนทำให้มันดีๆ
E=Energize
การเติมพลังให้กับร่างกาย เน้นหลัก eat move sleep (like a caveman) ทำตัวให้เหมือนมนุษย์ยุคหิน กินอะไรที่มนุษย์ยุคนั้นเห็นแล้วรู้ว่าคืออะไร (ของ processed food คือควรหลีกเลี่ยงซะ) เคลื่อนไหวให้มาก และนอนให้เพียงพอ
R=Rest
พักผ่อน เวลาจัด Time Boxing สิ่งแรกที่คุณรวิศใส่ลงไปในตารางคือเรื่องของการพักผ่อน
.
จากตัวอย่างการ challenge ของคุณรวิศ และบทสรุปของคำว่า SUPER จะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่เรามีการตั้งเป้าหมาย สิ่งแรกที่ต้องคิดคือ การตั้งคำถามและหาคำตอบให้กับสิ่งที่เราคิด จากนั้นก็เตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่จะลงมือทำ ลำดับความสำคัญต่างๆอย่างชัดเจน เสริมสร้างพลังให้พร้อม การจัดการเวลาที่เหมาะสมทั้งการทำงานเพื่อเป้าหมายและการพักผ่อนอย่างสมดุล
นี่เป็นเพียงบางส่วนที่ได้จาก Super Productive โดย คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้เขียนหนังสือ ผู้บริหารและเจ้าของพอดแคสต์ที่มีผู้ติดตามสูงสุดอย่าง “Mission to the Moon” และ “Super Productive” ที่เราหยิบบางส่วนมาฝากกัน หากท่านใดต้องศึกษาเพิ่มเติมท่านสามารถซื้อหนังสือ Super Productive มาอ่านกันได้สำหรับคนทำงานหรือคนมีเป้าหมายสามารถเสริมสร้างพลัง ปลุกตัวเองลุกขึ้นมาทำอะไรที่เราตั้งใจเพื่อตัวเองได้อย่างดี หรืออาจจะติดตามรับฟังข้อมูลดีๆได้ที่ the standard
ขอบคุณข้อมูลจาก
คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้เขียนหนังสือ Super Productive ผู้บริหารและเจ้าของพอดแคสต์
https://thestandard.co/podcast/
https://puisasakorn.medium.com/
รูปภาพ